สหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพิ่ม หวังหนุนอุตสาหกรรมเหล็ก-อะลูมิเนียม

25 มิถุนายน 2568
สหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพิ่ม หวังหนุนอุตสาหกรรมเหล็ก-อะลูมิเนียม

สหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าฉบับใหม่เมื่อวันจันทร์ (23 มิ.ย.) โดยครอบคลุมถึงตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่น ๆ โดยให้เหตุผลว่าอุปกรณ์เหล่านี้ผลิตจากชิ้นส่วนเหล็กและอะลูมิเนียม

รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขยายขอบเขตการเก็บภาษี 50% สำหรับการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงต้นเดือนมิ.ย. ให้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเหล็ก เช่น เครื่องอบผ้า เครื่องล้างจาน เครื่องกำจัดเศษอาหาร เตาอบ และเตาทำอาหาร

สินค้ากลุ่มดังกล่าวซึ่งมักเรียกรวมว่า “เครื่องใช้สีขาว” ส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากจีน เม็กซิโก และเกาหลีใต้ โดยรัฐบาลระบุว่า อัตราภาษีสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์จะกำหนดตามมูลค่าของปริมาณเหล็กที่ใช้

แม้การใช้มาตรการภาษีกับเครื่องใช้ภายในบ้านอาจส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้น แต่รัฐบาลชี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการคุ้มครองและฟื้นฟูภาคการผลิตในประเทศ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อกลางเดือนมี.ค. รัฐบาลได้ประกาศเก็บภาษี 25% ต่อการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมทั้งหมด ถือเป็นมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมตามกลุ่มสินค้าครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งอีกสมัยเมื่อต้นปี

ทั้งนี้ สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าที่เกี่ยวข้องกับเหล็กและอลูมิเนียม โดยอาศัยมาตรา 232 รัฐบัญญัติการขยายการค้า ค.ศ. 1962 ซึ่งให้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการจำกัดการนำเข้าสินค้าที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ


แหล่งที่มา : อินโฟเควสท์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.